วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

59: อาจาริโยวาท


โอวาทขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์(พ.สุรเตโช) ท่านได้เมตตาแสดงไว้ในวาระที่ได้ไปที่ภูดานไห เพื่อเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติแก่นักรบธรรมและญาติธรรม ในเรื่องการแสดงออกของผู้มีธรรม

ผู้มีธรรมอยู่ประจำจิต เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ จะแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเชื่อฟัง ไม่ดื้อ หรือแสดงความอวดรู้ อวดฉลาด ออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่ วางตนให้ผู้ใหญ่รัก เมตตา เอ็นดู เสมือนเด็กน้อยเมื่อเข้าหาผู้ใหญ่

หากอยู่ในสมณเพศเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้มีอาวุโสพรรษากว่าก็จะเหมือนดั่งเป็นเณรน้อย มีความเคารพนบนอบ มีความสำรวม ระวังกิริยา วาจา แม้นว่าตนนั้นจะเป็นถึงครูบาอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ก็ไม่ถือตัวถือตนในความเป็นครูเป็นอาจารย์ ไม่แสดงความโอ้อวด อวดเก่ง หรือยโสโอหัง จิตไม่มีความพยศอย่างนั้นออกมาเลยแม้แต่น้อย

แต่เมื่อยามอยู่กับลูกศิษย์ หรือผู้น้อย ก็แสดงออกถึงความมีเมตตา ความเป็นครูอาจารย์อย่างอาจหาญ สง่างามเต็มภูมิสมกับการเป็นครู เป็นอาจารย์ ที่คนให้การยอมรับนับถือยกย่อง
ผู้ที่แสดงออกถึงภูมิรู้ภูมิธรรม ด้วยอวดอ้างสิ่งที่ไม่มีในตน ไม่ได้ซึ่งคุณธรรม คุณวิเศษ มีเจตนาเพื่อประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด เช่น ชื่อเสียง ลาภสักการะ ความเคารพยกย่อง เขาผู้นั้นกำลังดำเนินไปสู่หนทางแห่งความเสื่อม ความวิบัติ

ในสมณเพศ หากได้ประกาศหรือแสดงคุณธรรมที่ไม่มีในตน อวดอ้างว่า ได้สมาธิ ได้ฌาน สมาบัติ ได้วิโมกข์ ได้วิมุตติ ได้มรรคได้ผล ประกาศออกไปด้วยเจตนาอยากได้ชื่อเสียง ลาภสักการะ หรือประโยชน์ที่จะเกิดแก่ตน พระวินัยบัญญัติ ท่านปรับอาบัติเป็นปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ ซึ่งเป็นการอวดอุตริมนุษย์ธรรมหรือธรรมอันยิ่งของมนุษย์ซึ่งตนไม่มีอยู่จริง

ผู้ที่ไม่มีคุณธรรม คุณวิเศษ แต่เข้าใจว่าตนได้คุณธรรม ได้ฌาน สมาบัติ ได้วิโมกข์ ได้มรรค ได้ผล อาจเพราะเกิดนิมิต เกิดความรู้สึก เกิดความอัศจรรย์ภายในใจ จากอุปาทาน จากความไม่รู้ หลงผิดคิดว่าตนนั้นสำเร็จมรรคผล ได้คุณธรรมนั้นจริง ท่านก็ไม่ปรับอาบัติเป็นปาราชิกเพราะความหลงผิด เข้าใจอย่างนั้น แต่ต่อมาได้ทราบในภายหลัง เพราะได้ฟังธรรม ได้เห็นว่ากิเลสตนเองยังคงมีอยู่ ยังคงชุ่มอยู่
ความหลงผิด หรือความหลงดีดังกล่าว ก็จะนำพาตนเองให้เสื่อม คือ เสื่อมจากความดี เกิดทิฐิมานะ หลงตัวหลงตน ไม่เชื่อฟัง ไม่ลงให้กับครูอาจารย์ เพราะคิดว่าตนเองเก่งแล้ว ดีแล้ว วิเศษแล้ว ไม่นำพาต่อการประพฤติปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความรู้แจ้งในอริยสัจจธรรม ก็จะอันตรายต่อตนเองและผู้ที่จะตามมาศึกษา

การแสดงออกว่าตนนั้นมีคุณธรรม หรือคุณวิเศษนั้น แม้มีอยู่จริง แต่ได้ประกาศออกไปด้วยเจตนาเพื่อลาภสักการะ ชื่อเสียง หรือประโยชน์แก่ตน ในพระวินัยบัญญัติท่านก็ปรับอาบัติเพียงแค่ปาจิตตีย์
แต่ผู้ที่ได้คุณธรรมจริงๆท่านมักจะไม่แสดงออกอย่างนั้น เพราะจิตของท่านจะไม่มีความโอ้อวด ไม่มีมารยาหรือความเคลือบแฝงด้วยผลประโยชน์ใดที่จะเกิดแก่ตน ท่านจะปกปิดภูมิธรรมของตน แต่หากเห็นว่าเพื่อให้เกิดกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติ ให้เกิดคุณประโยชน์แก่คนทั้งหลายให้เขาเหล่านั้นได้ประโยชน์มากๆ ท่านก็อาจสงเคราะห์ตามวาระโอกาส

การแสดงออกซึ่งความรู้ของตนนั้น พึงระลึกเสมอว่ายังมีผู้ที่เหนือกว่าตน มีความรู้ยิ่งกว่าตน ท่านจะรู้จะเห็นได้ สัมผัสได้ว่าจริงหรือหลงทาง พระอริยเจ้า ท่านมีญาน มีความรู้อย่างกว้างขวาง ท่านนั้นรู้ยิ่งกว่าเรารู้ แม้แต่กระทั่งตัวเราเอง ท่านยังรู้ตัวเรายิ่งกว่าเรารู้ตัวเราเองเสียอีก การแสดงออกซึ่งความอวดรู้ ผู้ที่ไม่เข้าใจอาจจะหลงเชื่อตามคำอวดอ้าง เพราะเป็นสิ่งภายในที่ไม่อาจเห็นกันได้ แต่ไม่ควรลำพองใจว่าเรารู้มากกว่าคนอื่น ควรเกรงใจผู้ที่เหนือกว่าเรา ผู้ที่รู้ยิ่งกว่าเรา จะเป็นการแสดงความไม่มีอะไรของเราออกมาให้ท่านเห็น จะเป็นที่ตำหนิเอาได้


แต่ถ้ารู้จริง ได้คุณธรรมจริง ท่านก็ยอมรับโดยธรรม ทั้งยังรับรอง ส่งเสริม โดยไม่ปิดบัง คัดค้าน แต่ถ้ารู้ไม่จริงท่านก็จะไม่ยอมรับ จะรับไม่ได้
การรับรู้รับฟัง การเชื่อ ในเรื่องราวต่างๆต้องใคร่ควรไตร่ตรองถึงเหตุและผล ไม่ใช่เชื่อเพราะคำอวดอ้าง เพราะบุคคลนั้นเป็นคนน่าเชื่อถือ อยู่ในฐานะที่น่านับถือ เป็นที่เคารพยกย่อง นับหน้าถือตาของคนมากมาย หรือผู้นั้นอาจเป็นผู้ที่มีทักษะในการโน้มน้าว จนน่าเชื่อถือ
เราก็มีหลักกาลามสูตรที่พระพุทธเจ้าท่านให้นำมาพินิจพิเคราะห์ ใคร่ควรไตร่ตรอง จะได้ไม่นำพาตนเองไปสู่ความลุ่มหลง เดินทางผิดนี้เป็นโอวาท ข้อคิดเตือนใจให้สำรวมระวัง เพื่อไม่นำพาตนไปสู่ความเสื่อม ความเสียหาย
การขนาบ หรือสั่งสอน ก็ด้วยความรัก เมตตา ท่านว่าถ้าเป็นลูกศิษย์ครูอาจารย์กัน ก็ต้องลงให้กัน ขนาบกันได้ ด้วยว่าอยากให้ได้ดี และสิ่งที่ท่านเมตตาชี้แนะสั่งสอนนั้นก็ด้วยความรู้ที่กลั่นกรองมาแล้วว่าถูกต้องและดีที่สุด
นำมาถ่ายทอดแบ่งปันเท่าที่พอจะจดจำมาได้ อาจไม่ละเอียด ลึกซึ้งและครบถ้วน ดังถ้อยธรรม คำโอวาท ที่ท่านได้เมตตาสั่งสอน แต่ก็คงจะได้รับรู้พอเป็นสังเขป ที่จะนำไปเป็นข้อคิดเตือนใจ ในการดำเนินตามแนวทาง ปฏิปทาขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ในการประพฤติปฏิบัติได้นะครับ

ขอมีความเจริญในธรรม
นรธ.ภูเบศวร์

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

58: ภาพในอดีต

ในวาระช่วงวันมหามงคล(วันฉัตรมงคล,วันพืชมงคล)ที่ผมได้มาที่ ภูดานไห
มีโอกาสได้ชมภาพในอดีตขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์(พ.สุรเตโช) ซึ่งน่าจะประมาณพ.ศ.2547
เป็นภาพในช่วงที่ท่านได้ปฏิบัติอยู่ในป่าเขา เงื้อมถ้ำ
จึงกราบขออนุญาตองค์ท่านได้นำภาพมาแบ่งปันให้เพื่อนนักรบธรรมและเพื่อนสายธรรมได้ชม

เพื่อเป็นกำลังใจและเพื่อนำมาเป็นแบบอย่างของความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว และทำจริง

ธรรมเป็นของจริง ต้องเป็นคนจริงและทำจริง จึงจะได้พบของจริง





"เรากล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ เราไม่กล้าทำในสิ่งที่คนอื่นกล้าทำ

เราหยุดในสิ่งที่คนอื่นไม่หยุด เราไม่หยุดในสิ่งที่คนอื่นหยุด"

น้อมศิรวาท ณ เบื้องบาท
องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
กราบ กราบ กราบ (นรธ.ภูเบศวร์)

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

57: ภาพพิเศษองค์พ่อแม่ครูอาจารย์


ภาพ:กายทิพย์ กายธรรม (พร้อมยันต์ประจำองค์)

ภาพ:เมื่อตอนองค์ท่าน อายุประมาณยี่สิบกว่าๆ
(ผมเรียกยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์)
กราบ กราบ กราบ
นะมัตถุ พุทธานัง ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
นะมัตถุ โพธิยา ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระโพธิญาณ

ธรรมรักษ์ผู้รักษ์ธรรม
นรธ.สมบัติ เพ็งพล
[IT Man/08.05.55]

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

56: ธรรมะรับอรุณ


ขอนอบน้อมสร้างถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บูชาองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
เขาโกรธ เขานินทา เขาว่าเรา แสนครั้ง ยังดีกว่า
เราไปโกรธ ไปนินทา ไปว่าคนอื่นเขา แม้เพียงครั้งเดียว


เพราะเขาโกรธ เขานินทา เขาว่า มันเป็นความไม่ดีของเขา แต่หากว่า
เราไปโกรธ ไปนินทา ไปว่าคนอื่นเขา มันเป็นความไม่ดีของเรา

ท่านจึงได้สอนว่า จงสำรวมระวังความไม่ดีที่จะเกิดขึ้นกับตัวเรา

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
07.05.55
Link : ภาพปาฏิหาริย์องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ---> (ขยายขนาดใหญ่)

นะมัตถุ พุทธานัง ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
นะมัตถุ โพธิยา ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระโพธิญาณ

ธรรมรักษ์ผู้รักษ์ธรรม
IT Man

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

55: ขอเชิญร่วมบุญกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ สร้างกุฏิมอบแด่คุณแม่บุญชม

กราบเรียน เพื่อน นรธ.และญาติธรรมที่เคารพ,
เรื่อง ขอเชิญร่วมบุญกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช สร้างกุฏิพร้อมห้องน้ำมอบแด่คุณแม่บุญชม ยางธิสาร,


สืบเนื่องมาจากดำริขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ที่เห็นกุฏิของคุณแม่ชม ได้ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก กันลมฝนได้เพียงระดับหนึ่ง ที่ตั้งก็ห่างไกลจากห้องน้ำ เวลามีญาติโยมมาปฏิบัติธรรมพร้อมๆกัน คุณแม่ก็ต้องรอให้ลูกๆหลานๆทำธุระเสร็จก่อนจึงค่อยเข้า ทำให้การต้อนรับญาติโยม การสนองงานองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ไม่ทันการ เพราะคุณแม่เป็นผู้อุปัฏฐาก และคอยนำพาญาติโยมเข้าหาองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ตามเวลาเหมาะสม อีกทั้งคุณแม่ก็อายุมากแล้ว ท่านคอยสนองงานองค์ท่านมาก็ยาวนาน ตั้งแต่ยุคแรกๆ (ประมาณ 2547)  จนถึงขั้นทุ่มเท เสียสละการงาน ครอบครัว ทุกสิ่งทุกอย่างมา เพื่อคอยอุปัฏฐาก สนองงานองค์ท่านจวบจนทุกวันนี้ จะเรียกว่าคุณแม่ถือบวชแล้วก็ไม่ผิดนัก แต่เนื่องจากงานหลายอย่างไม่สะดวกต่อผู้โกนผมออกบวช องค์ท่านจึงให้ถือเพียงผ้าขาว หรืออุบาสิกาประจำวัด จึงถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วที่คุณแม่จักได้บำเพ็ญเพียรภาวนาน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บูชาคุณองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ณ สถานที่อันเหมาะสมแข็งแรง คือกุฏิก่ออิฐถือปูนขนาด 4x4 เมตร มีห้องน้ำในตัวขนาด 2x2 เมตร ไม่ได้ใหญ่โตหรือเล็กจนเกินไปสำหรับคุณแม่ที่เป็นเพศหญิง

สำหรับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์นั้น หากไม่มีคุณแม่ชมนิมนต์องค์ท่านไว้โปรดฯ ก็จักไม่มีพวกเรานักรบธรรม และจักไม่เกิดมีพุทธสถานภูดานไหแห่งนี้ เนื่องจากองค์ท่านจักธุดงค์ไปเรื่อยๆ ไม่รู้ป่านนี้องค์ท่านจักอยู่ ณ แห่งหนใด และไม่รู้ว่าป่านนี้ใจของพวกเราจักลงไปสู่เบื้องล่างที่ใดบ้าง

ดังนั้นกระผมจึงขอนอบน้อมโมทนาสาธุร่วมสนองงานบุญ แด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อยังผลความเมตตาแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีต่อคุณแม่ชมของพวกเรา ให้บรรลุผลโดยเร็ว มา ณ โอกาสนี้ โดยองค์พ่อแม่ครูอาจารย์จักนำปัจจัยที่ญาติโยมมาถวายแด่องค์ท่านโดยตรงและปัจจัยที่ได้รับจากการบิณฑบาตรในทุกๆเช้ามาเป็นปัจจัยตั้งต้น

นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างวันที่ 5-8 พ.ค. 55 จักมีญาติธรรมที่ประสงค์จักเดินทางไปปฏิบัติธรรมและปวารณาสร้างห้องน้ำห้องส้วมถวาย เนื่องจากวาระสงกรานต์ที่ผ่านมา พอส้วมที่ปัจจุบันตั้งอยู่ใจกลางวัดเต็ม (คนใช้ราวๆ 20 คน ต่อเนื่องหลายวันและทั้งวัดมีห้องน้ำอยู่เพียง 3 ห้อง) ทำให้มีกลิ่นอบอวลไปทั้งวัด องค์ท่านจึงมีดำริให้ทุบทำลายทิ้งเสีย เพื่อใช้เป็นที่รับแขกหรือที่กางเต๊น แล้วให้ไปสร้างทางฝั่งโรงครัว ที่ ณ ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วพร้อมปรับปรุงทางขึ้นให้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนศาลาหลวงปู่ศรีสุทโธ ตอนนี้ขึ้นโครงหลังคาเสร็จแล้ว กำลังดำเนินการส่วนอื่นอยู่ (รู้สึกจะใหญ่กว่าเดิม) กระผมจักรายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป

ท้ายนี้ หากท่านประสงค์จักร่วมบุญร่วมกุศลกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อสร้างกุฏิ-ห้องน้ำมอบแด่คุณแม่ชม หรือร่วมสร้างห้องน้ำ ห้องส้วมในพุทธสถานภูดานไห ก็โปรดโอนปัจจัยร่วมทำบุญไปยัง
ชื่อบัญชี : นางบุญชม ยางธิสาร
เลขที่บัญชี: 4160396194
ธนาคาร : กรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์

ทั้งนี้กระผมกับญาติมิตรจักขอร่วมบุญข้างต้นเป็นปัจจัย 5,000 บาท

ขอโมทนาสาธุในกุศลนี้ทุกประการ
ขอทุกท่านจงมีความสุขความเจริญ มีความคล่องตัว สบายกายสบายใจในทุกสถาน ตราบจนถึงกาลแห่งวันสิ้นทุกข์ จงทุกๆท่านเทอญ
นรธ.สมบัติ เพ็งพล (IT Man)
04.05.55

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ประกาศพุทธสถานภูดานไห

กราบเรียนญาติธรรมที่เคารพทุกท่าน,

หากท่านมีข้อสงสัยเรื่องปฏิปทาและธรรมะต่างๆ โปรดติดต่อพุทธสถานภูดานไหโดยตรงที่
คุณแม่บุญชม ยางธิสาร : โทร. 0801765282 (อุบาสิกาประจำวัด)

โมทนาสาธุทุกประการครับ
IT Man/03.05.55