วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554

20: โปรด นรธ.ดร.นนต์



 

23 ตุลาคม 2554 ประมาณหกโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่มกว่าๆ พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช และเหล่านักรบธรรม ได้เดินทางไปนมัสการรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ณ วิหารหลวงปู่โต ริมถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว โคราช (สร้างโดยคุณสรพงศ์ ชาตรี และพุทธสานิกชน)
ทุกสิ่งถูกกำหนดเวลาให้เข้าไปสักการะในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่วิหารได้ปิดแล้วตั้งแต่ห้าโมงเย็น พอไปถึง พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้ลงจากรถโดยเร็วและเดินเข้าไปในวิหารเสมือนกลับบ้านตัวเอง ยามเฝ้าวิหารได้เดินเข้ามาอำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องพูดอะไรมาก เหล่านักรบธรรมก็ยังงงๆในเหตุการณ์นั้น แต่ต้องรีบเดินติดตามไปให้ทัน ทุกสิ่งดำเนินไปในสภาวะที่ไม่สามารถอธิบายให้ผู้ที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้าใจทั้งหมด หลังจากพ่อแม่ครูอาจารย์ได้เดินขึ้นไปนมัสสการหลวงปู่โตแล้ว ได้เดินลงมาข้างล่างทำให้คุณแม่ชมถึงกับปีติสุดๆ น้ำตาหลั่งไหลออกมาอยู่นานสองนาน เหล่านักรบธรรมก็พลอยปีติไม่แพ้กัน ความลังเลสงสัยไม่มีอีกต่อไป นัยยะบางอย่างยิ่งตอกย้ำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โอ้หนอ...จิตและกายของผู้ที่อยู่เหนือโลก แม้จะเกิดดับกี่ชาติภพ ก็ยังเปล่งรังสีออกมาไม่สิ้นสุด...พวกเราไม่มีใครพูดหรือซักถามพ่อแม่ครูอาจารย์ในความสงสัยใดๆ เพราะเข้าใจในสภาวะเหนือโลกด้วยจิตด้วยใจของแต่ละคนอยู่แล้ว
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
25 ตุลาคม 2554

.........................................................................................................
23 ตุลาคม 2554 เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช และเหล่านักรบธรรมได้เดินทางมาถึงบ้านของผม หลังจากนั้นท่านได้แสดงธรรมโปรดญาติธรรมจนถึงเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ แม้จะจบการแสดงธรรมแล้ว แต่ญาติธรรมหลายๆท่านยังไม่ค่อยอยากจะกลับเท่าใดนัก กว่าเหล่านักรบธรรมจะได้นอนก็ปาเข้าไปตีสองกว่าๆ นี้หละหนาการฟังธรรมอันประเสริฐ สามารถทำให้ลืมความง่วงนอนได้
ปล. ญาติธรรมที่มาสมทบเพื่อกราบนมัสการและฟังธรรม มาจากกรุงเทพฯคือ ท่านนาวาอากาศโทสุทน พร้อมญาติธรรมที่เป็นครูมาจากจังหวัดยะลาสองท่าน ครอบครัวของคุณจ็อกกี้ คุณประจักร์และคุณปุ้ย คุณโกศลและคุณแม่ อ.นฤดม(ม.ราชมงคลอีสาน)พร้อมครอบครัว
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
25 ตุลาคม 2554

  
นอกจากพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านจะได้แสดงธรรมโปรดพุทธศาสนิกชนแล้ว ท่านยังได้แสดงธรรมแก่คุณครูท่านหนึ่งที่ต่างศาสนา ครูสตรีท่านนี้ได้เดินทางมากับเพื่อนครูอีกท่านหนึ่งจากจังหวัดยะลา โดยมาพร้อมกับท่านนาวาอากาศโทสุทน เพื่อแสวงหาที่พึ่งในการปลดทุกข์ของเธอที่ได้รับความทุกข์ทรมานมาเกือบสี่สิบปี(38 ปี) หลังจากได้กราบถามพ่อแม่ครูอาจารย์แล้ว เมื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ได้แสดงธรรมโปรดเธอจบลง เธอมีอาการปีติจนต้องร้องไห้ออกมา ความทุกข์ทั้งหลายที่อัดอั้นมานับสี่สิบปี ได้คลายออกไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหลือแต่ความปีติและโอกาสที่เธอจะได้นำไปปฏิบัติเพื่อให้สิ้นทุกข์ทั้งหลายในอนาคตต่อไป ทุกคนที่นั่งฟังอยู่นั้น ต่างอนุโมทนาและให้กำลังใจ และยังได้รับประโยชน์จากธรรมที่พ่อแม่ครูอาจารย์แสดงออกมาเช่นกัน ดังที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านกล่าวว่า "ธรรมะเป็นของโลก" ไม่มีแบ่งเชื้อชาติศาสนา ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ พระพุทธองค์มิเคยปิดกั้นผู้ใด

คำถามของเธอคือ ความทุกข์ทรมานจากบางอย่างทำให้เธอนอนไม่หลับมานานเกือบทั้งชีวิต เมื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ได้แสดงธรรมโปรดเธอในตอนหนึ่งว่า ความทุกข์ทั้งหลายมันมีเหตุมาจากการยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้น แล้วนำมาคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจึงทำให้เกิดทุกข์ ท่านชี้ให้เห็นโทษของสิ่งนั้นว่า มันเป็นสาเหตุของความทุกข์ หากสิ่งที่เรานำมาคิดมันเป็นคุณแล้วทำไมมันยังทำให้เกิดความทุกข์อยู่เล่า นั่นจึงแสดงว่าสิ่งที่เรานำมาคิดมาปรุงแต่งนั้น มันมีแต่โทษล้วนๆ

คำพูดของเธอในตอนหนึ่งว่า เธอเป็นครูแนะแนวที่คอยให้คำปรึกษาแก่คนอื่นได้ดี แต่ทำไมเธอยังทุกข์อยู่ พ่อแม่ครูอาจารย์จึงกล่าวกับเธอว่า ให้เอาคำสอนที่เธอสอนผู้อื่นนั้นแหละกลับมาสอนตัวเองด้วย อย่าลืมสอนตัวเอง หลังจากนั้นท่านจึงได้แนะนำพื้นฐานแห่งการดับทุกข์แบบง่ายๆ ที่เธอพอจะเข้าใจได้คือ ให้เธอระลึกถึงแต่สิ่งที่ดีหรือสิ่งที่เธอนับถือสูงสุด เพราะศรัทธาในสิ่งที่ดี(สิ่งที่เป็นคุณ)จะทำให้เธอคลายกังวลไปสู่ความสงบ และให้มีสติรู้ลมหายใจเข้าออก เพราะสมาธิเป็นของกลางที่ทุกชนชาติศาสนาสามารถนำไปใช้ได้ การรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นการเพ่งอยู่ที่จุดเดียว จึงทำให้ความคิดไม่ฟุ้งซ่านไปที่อื่น ดั่งที่นักปฏิบัติเข้าใจกันดี ท่านบอกว่านี้คือ วิธีที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างง่ายๆ และไม่ขัดกับศาสนาของเธอ ความเมตตาและรังสีธรรมของพ่อแม่ครูอาจารย์ได้แผ่ไปถึงเธออย่างน่าอัศจรรย์ เช้าต่อมาผมทราบจากท่านสุทนว่า เธอจะขอไปกราบและฟังธรรมจากพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ภูดานไหในโอกาสต่อๆไปอีกครั้ง

อนึ่ง พ่อแม่ครูอาจารย์ได้มอบปฐวีธาตุที่ไม่มีรูปพระพุทธเจ้าแก่เธอ เพื่อเป็นที่ระลึกและจะได้ไม่ผิดศาสนาของเธออีกด้วย จึงขออนุโมทนาด้วยทุกประการครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
25 ตุลาคม 2554