- เมื่องแม่ฮ่องสอน
- หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว
- ถ้ำปลา
- ปางมะผ้า
เช้าวันที่ 16 พ.ย. 2554
- เตรียมถวายภัตตาหารเช้าตั้งแต่ 8:00 น.
-
มีญาติธรรมชุดแรกเข้ามาถวายก่อนเพื่อที่จะเดินทางไปทำงาน(ไม่ได้บันทึกภาพ)
-
เมื่อพร้อมแล้วพ่อแม่ครูอาจารย์ก็ได้แสดงธรรมโปรดอีกรอบ...
ต้องขอขอบพระคุณและโมทนาสาธุในบุญนี้ร่วมกัน
เมื่อรับประทานอาหารร่วมกัน บันทึกภาพ
มอบพระพระพุทธปฐวีธาตุให้เจ้าภาพทุกๆท่านแล้ว
ก็ออกเดินทางไปหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว โดยทางเรือครับ
(ขาไป)
พอถึงฝั่งคุณแม่ชมก็ออกมาต้อนรับเลย
ออกจากหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว ได้นั่งเรือ ขึ้นฝั่ง
แล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังเส้นทางอำเภอปางมะผ้า
แวะให้อาหารปลา ณ ถ้ำปลา
แล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังเส้นทางอำเภอปางมะผ้า
แวะให้อาหารปลา ณ ถ้ำปลา
ออกจากถ้ำปลาก็บ่ายๆและพักรับประทานอาหาร(นรธ)
ก็ออกเดินทางต่อไป ก่อนถึงถ้ำลอด
- ในจุดแรกได้แวะข้างทางเพื่อจะไปชมถ้ำจำชื่อไม่ได้ จนเย็นสงสัยได้พักแถวนั้น แต่ไม่สามารถเข้าถึงถ้ำได้ ขึ้นไปบนภูเขาก็ไม่มีที่เหมาะ จึงไปขอพักที่ค่ายทหาร (เพราะมืดจนมองไม่เห็นทาง) ทหารที่นั่นเห็นใจจึงให้ไปพักบนลานจอด ฮ. แต่นาย(ผบ)ไม่ยอม เกรงเกิดเหตุฉุกเฉินแล้ว ฮ.ลงไม่ได้ ก็ต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ดังกล่าว
- เห็น resort1 ว่าจะเข้าไปพัก แต่มีงานเลี้ยง
- เห็น resort2 ดูว่าเงียบดี แต่พอเข้าไปข้างในกลับไม่สงบและคับแคบ
- เดินทางต่อไปพบด่านทหาร เขาให้พักได้ แต่ดูแล้วไม่เหมาะเพราะอยู่ข้างถนน จึงขึ้นไปดูถ้ำม่อนผา แต่ปลวกหินเยอะมาก ก็เลยกะจะไปถ้ำลอด
- เห็น resort3 เขาให้เช่าทั้งหลังแล้วให้กางเต๊นอีกฟากแม่น้ำได้ แต่พ่อแม่ครูอาจารย์บอกว่า "เรามาปฏิบัติธรรม อย่าเห็นแก่การนอนสบาย ให้เก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายเดินทางหรืออาหารจักดีกว่า...ท่านเข้าใจในศิษย์ที่เหน็ดเหนื่อยและอยากให้พ่อแม่ครูอาจารย์นอนสบายๆ แต่ท่านบอกว่า...อย่างไรเราก็ต้องรีบตื่นและรีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็วอยู่แล้ว resort แห่งนี้มีเจ้าของเป็นฝรั่งอีกด้วย เขาไม่เข้าใจเรื่องการปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว" จึงรีบออกมาจากสถานที่นั้นทันที
- ก่อนถึงถ้ำลอดมี guest house ให้พัก แต่เข้าไปกลับมีแต่ฝรั่งเต็มไปหมด
- จึงเลยเข้าไปถึงถ้ำลอด แต่เผอิญเจอคณะนักเรียนมาเข้าค่ายปฏิบัติธรรม
- จึงเดินทางต่อจนพบที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า และสามารถติดต่อ จนท.จนสามารถกางกรดได้ที่บ้านไม้หลังใหม่ที่เตรียมจะทำศูนย์การเรียนรู้ ส่วน นรธ. กางเต๊นข้างล่างรอบๆที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า
- เหตุการณ์นี้พวกเราได้เรียนรู้อะไรมากมายๆก่ยกองเลยทีเดียว หุหุหุ ทั้งเหนื่อยจากการเดินทางทั้งเห็นใจคนขับรถ สอบถามหาที่พักประมาณ 7-8 แห่ง ทั้งดึก ทั้งมืด ทั้งหนาว แต่ก็ต้องอาบน้ำ ทั้งหิว ทั้งต้องรีบทำเวลาให้ตื่นก่อนมีคนมาทำงาน ฯลฯ รวมมิตรครับที่ปางมะผ้า
ปล: ทราบภายหลังว่า ด้านหลังอำเภอขึ้นไปบนเขา เป็นสุสานครับ
นนต์
การเดินทางข้ามภูเขาสูง คดเคี้ยวและสูงชันในธรรมสัญจรวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 นี้ นับว่าหนักหน่วงทั้งความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องนั่งรถที่เหวี่ยงเข้าโค้งนับเป็นร้อยเป็นพันโค้งตั้งแต่ออกจากแม่ฮ่องสอนในตอนสายๆ และต้องมาเหนื่อยใจในการแสวงหาที่พักอย่างเดียวที่เริ่มต้นคิดกันตั้งแต่สี่โมงเย็น และสิ้นสุดการแสวงหาจวบจนเวลาสามทุ่มกว่าๆ ขับรถวนไปวนมาอยู่ในเขตอำเภอปางมะผ้าก็หลายชั่วโมง เพราะพวกเราต้องหาสถานที่อันเหมาะสมสำหรับพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วย การหาที่พักในสถานที่ที่เราไม่เคยไป กอปรกับเวลาได้มืดค่ำลง มองไปทางไหนก็มีแต่ภูเขาและหน้าผาสูงชันสุดลูกหูลูกตา พยายามสอบถามเส้นทางและดูแผนที่ เจอรีสอร์ทที่ไหนก็แวะเข้าไปดู แต่สถานการณ์กลับไม่เอื้ออำนวยให้พัก วนไปวนมาหลายรอบ สอบถามผู้คนก็หลายครั้ง ท้องฟ้าก็มืด คนขับรถก็ขับมาทั้งวัน พาไปทุกแห่งที่เขาบอกว่ามีที่พัก ขับไปยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ คนในรถก็นั่งเงียบ ในใจผมก็บอกว่า วันนี้เจอบททดสอบเข้าแล้ว ก็เลยนิ่งเฉย พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านก็ปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปเรื่อยๆ ดูว่ากิเลสของนักรบธรรมได้ฟูขึ้นมาหรือไม่เมื่อเจอสถานการณ์อย่างนี้ เป็นการกวนกิเลสให้ฟูขึ้นมานั่นเอง
และเมื่อถึงวาระอันควร พ่อแม่ครูอาจารย์ก็สั่งให้พวกเราเข้าไปดูสถานที่ในที่ว่าการอำเภอปางมะผ้าที่อยู่บนเนินเขา เพื่อขออาศัยสถานที่ในการกางเต๊นท์พักแรม พอเลี้ยวเข้าไปก็เจอเจ้าหน้าที่ที่มาเข้าเวรท่านหนึ่ง เขาได้เข้ามาอำนวยความสะดวกและอนุญาตให้พวกเรากางเต๊นท์และใช้ห้องน้ำด้านหลังอาคารได้ พวกเรากางเต๊นให้พ่อแม่ครูอาจารย์บนอาคารไม้สองชั้นหลังเล็กๆซึ่งกำลังทาสีใหม่ๆ เป็นศูนย์การเรียนรู้ อยู่ใกล้กับลำธารเก่าที่ไม่มีน้ำแล้ว พ่อแม่ครูอาจารย์ได้สอบถามเจ้าหน้าที่อำเภอถึงที่มาของสถานที่ และได้ถามเรื่องราวเหนือโลกบางอย่างว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในบริเวณนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าด้านหลังที่ว่าการอำเภอ มีสุสานเก่าอยู่บนเนินเขา ซึ่งมีมานานตั้งแต่โบราณแล้ว หลังจากนั้นพวกเราได้มากางเต๊นท์รวมกันอยู่ข้างๆอาคารที่ว่าการอำเภอ และได้อาศัยห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ แม้ภายในห้องน้ำจะไม่มีฝักบัวมีแต่โถส้วมและถังใส่น้ำ แถมในห้องน้ำหญิงไม่มีขันตักน้ำอีกต่างหาก คุณแม่ชม คุณแม่เชิญ และคุณบี้ จึงต้องอาศัยมือวักน้ำจากถังน้ำภายในส้วมไปอย่างทุลักทุเล อากาศก็เริ่มหนาวมาก เรื่องข้าวเย็นในวันนี้พวกเราก็ต้องอดไป แม้แต่น้ำดื่มก็ไม่มี วันนี้พ่อแม่ครูอาจารย์งดการแสดงธรรม เวลาเกือบห้าทุ่มทุกคนได้เข้าเต๊นท์นั่งภาวนา เสียงหมาเริ่มหอนมากขึ้นเป็นระยะๆ ผมรู้แล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น การแผ่เมตตาก็เริ่มขึ้น เพราะเมื่อครั้งที่อยู่บ้านคุณสมบัติที่แม่สอดก็มีเหตุการณ์แบบเดียวกัน ซึ่งพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้เฉลยให้พวกเราทราบกันมาแล้วว่า ท่านมาโปรดดวงวิญญาณที่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนในอดีตชาติ มีทุกเชื้อชาติ โดยเฉพาะชาวจีนนั้น นับว่ามีความผูกพันกับท่านมาก
ท่านทั้งหลาย สภาวะธรรมบางอย่าง สภาวะกิเลสของเราบางอย่าง หากอยู่ในสถานการณ์ที่เรียบสงบและสุขสบาย เราจะไม่รู้เลยว่า แท้ที่จริงกิเลสของเราเป็นเช่นไร การนั่งภาวนาสมาธิที่มีแต่ความเรียบสงบ มีแต่องค์ฌานเกิดขึ้น การที่มีแต่ความสุขอิ่มเอิบที่เกิดจากองค์ฌานนั้น แท้จริงมันดับกิเลสและเห็นกิเลสได้จริงหรือ... การกวนกิเลสให้มันฟูขึ้นนั้นต่างหาก จึงจะเห็นว่ากิเลสที่มันนอนแน่นิ่งอยู่ในก้นบึ้งของเรานั้น แท้จริงหน้าตามันเป็นเช่นไร สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนั้น จึงเป็นบทสอบที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผมเลยทีเดียว และได้เห็นสภาวะภูมิธรรมของแต่ละคนได้แจ่มแจ้งมากขึ้น ทุกคนยิ้มรับด้วยความสุข ซึ่งพ่อแม่ครูอาจารย์ได้เฉลยในวันสุดท้าย ด้วยคำกล่าวว่า "ขออนุโมทนากับทุกคนเด้อ"
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
24 พฤศจิกายน 2554
- ในจุดแรกได้แวะข้างทางเพื่อจะไปชมถ้ำจำชื่อไม่ได้ จนเย็นสงสัยได้พักแถวนั้น แต่ไม่สามารถเข้าถึงถ้ำได้ ขึ้นไปบนภูเขาก็ไม่มีที่เหมาะ จึงไปขอพักที่ค่ายทหาร (เพราะมืดจนมองไม่เห็นทาง) ทหารที่นั่นเห็นใจจึงให้ไปพักบนลานจอด ฮ. แต่นาย(ผบ)ไม่ยอม เกรงเกิดเหตุฉุกเฉินแล้ว ฮ.ลงไม่ได้ ก็ต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ดังกล่าว
- เห็น resort1 ว่าจะเข้าไปพัก แต่มีงานเลี้ยง
- เห็น resort2 ดูว่าเงียบดี แต่พอเข้าไปข้างในกลับไม่สงบและคับแคบ
- เดินทางต่อไปพบด่านทหาร เขาให้พักได้ แต่ดูแล้วไม่เหมาะเพราะอยู่ข้างถนน จึงขึ้นไปดูถ้ำม่อนผา แต่ปลวกหินเยอะมาก ก็เลยกะจะไปถ้ำลอด
- เห็น resort3 เขาให้เช่าทั้งหลังแล้วให้กางเต๊นอีกฟากแม่น้ำได้ แต่พ่อแม่ครูอาจารย์บอกว่า "เรามาปฏิบัติธรรม อย่าเห็นแก่การนอนสบาย ให้เก็บเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายเดินทางหรืออาหารจักดีกว่า...ท่านเข้าใจในศิษย์ที่เหน็ดเหนื่อยและอยากให้พ่อแม่ครูอาจารย์นอนสบายๆ แต่ท่านบอกว่า...อย่างไรเราก็ต้องรีบตื่นและรีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็วอยู่แล้ว resort แห่งนี้มีเจ้าของเป็นฝรั่งอีกด้วย เขาไม่เข้าใจเรื่องการปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว" จึงรีบออกมาจากสถานที่นั้นทันที
- ก่อนถึงถ้ำลอดมี guest house ให้พัก แต่เข้าไปกลับมีแต่ฝรั่งเต็มไปหมด
- จึงเลยเข้าไปถึงถ้ำลอด แต่เผอิญเจอคณะนักเรียนมาเข้าค่ายปฏิบัติธรรม
- จึงเดินทางต่อจนพบที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า และสามารถติดต่อ จนท.จนสามารถกางกรดได้ที่บ้านไม้หลังใหม่ที่เตรียมจะทำศูนย์การเรียนรู้ ส่วน นรธ. กางเต๊นข้างล่างรอบๆที่ว่าการอำเภอปางมะผ้า
- เหตุการณ์นี้พวกเราได้เรียนรู้อะไรมากมายๆก่ยกองเลยทีเดียว หุหุหุ ทั้งเหนื่อยจากการเดินทางทั้งเห็นใจคนขับรถ สอบถามหาที่พักประมาณ 7-8 แห่ง ทั้งดึก ทั้งมืด ทั้งหนาว แต่ก็ต้องอาบน้ำ ทั้งหิว ทั้งต้องรีบทำเวลาให้ตื่นก่อนมีคนมาทำงาน ฯลฯ รวมมิตรครับที่ปางมะผ้า
ปล: ทราบภายหลังว่า ด้านหลังอำเภอขึ้นไปบนเขา เป็นสุสานครับ
นนต์
การเดินทางข้ามภูเขาสูง คดเคี้ยวและสูงชันในธรรมสัญจรวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 นี้ นับว่าหนักหน่วงทั้งความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องนั่งรถที่เหวี่ยงเข้าโค้งนับเป็นร้อยเป็นพันโค้งตั้งแต่ออกจากแม่ฮ่องสอนในตอนสายๆ และต้องมาเหนื่อยใจในการแสวงหาที่พักอย่างเดียวที่เริ่มต้นคิดกันตั้งแต่สี่โมงเย็น และสิ้นสุดการแสวงหาจวบจนเวลาสามทุ่มกว่าๆ ขับรถวนไปวนมาอยู่ในเขตอำเภอปางมะผ้าก็หลายชั่วโมง เพราะพวกเราต้องหาสถานที่อันเหมาะสมสำหรับพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วย การหาที่พักในสถานที่ที่เราไม่เคยไป กอปรกับเวลาได้มืดค่ำลง มองไปทางไหนก็มีแต่ภูเขาและหน้าผาสูงชันสุดลูกหูลูกตา พยายามสอบถามเส้นทางและดูแผนที่ เจอรีสอร์ทที่ไหนก็แวะเข้าไปดู แต่สถานการณ์กลับไม่เอื้ออำนวยให้พัก วนไปวนมาหลายรอบ สอบถามผู้คนก็หลายครั้ง ท้องฟ้าก็มืด คนขับรถก็ขับมาทั้งวัน พาไปทุกแห่งที่เขาบอกว่ามีที่พัก ขับไปยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ คนในรถก็นั่งเงียบ ในใจผมก็บอกว่า วันนี้เจอบททดสอบเข้าแล้ว ก็เลยนิ่งเฉย พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านก็ปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปเรื่อยๆ ดูว่ากิเลสของนักรบธรรมได้ฟูขึ้นมาหรือไม่เมื่อเจอสถานการณ์อย่างนี้ เป็นการกวนกิเลสให้ฟูขึ้นมานั่นเอง
และเมื่อถึงวาระอันควร พ่อแม่ครูอาจารย์ก็สั่งให้พวกเราเข้าไปดูสถานที่ในที่ว่าการอำเภอปางมะผ้าที่อยู่บนเนินเขา เพื่อขออาศัยสถานที่ในการกางเต๊นท์พักแรม พอเลี้ยวเข้าไปก็เจอเจ้าหน้าที่ที่มาเข้าเวรท่านหนึ่ง เขาได้เข้ามาอำนวยความสะดวกและอนุญาตให้พวกเรากางเต๊นท์และใช้ห้องน้ำด้านหลังอาคารได้ พวกเรากางเต๊นให้พ่อแม่ครูอาจารย์บนอาคารไม้สองชั้นหลังเล็กๆซึ่งกำลังทาสีใหม่ๆ เป็นศูนย์การเรียนรู้ อยู่ใกล้กับลำธารเก่าที่ไม่มีน้ำแล้ว พ่อแม่ครูอาจารย์ได้สอบถามเจ้าหน้าที่อำเภอถึงที่มาของสถานที่ และได้ถามเรื่องราวเหนือโลกบางอย่างว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในบริเวณนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าด้านหลังที่ว่าการอำเภอ มีสุสานเก่าอยู่บนเนินเขา ซึ่งมีมานานตั้งแต่โบราณแล้ว หลังจากนั้นพวกเราได้มากางเต๊นท์รวมกันอยู่ข้างๆอาคารที่ว่าการอำเภอ และได้อาศัยห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ แม้ภายในห้องน้ำจะไม่มีฝักบัวมีแต่โถส้วมและถังใส่น้ำ แถมในห้องน้ำหญิงไม่มีขันตักน้ำอีกต่างหาก คุณแม่ชม คุณแม่เชิญ และคุณบี้ จึงต้องอาศัยมือวักน้ำจากถังน้ำภายในส้วมไปอย่างทุลักทุเล อากาศก็เริ่มหนาวมาก เรื่องข้าวเย็นในวันนี้พวกเราก็ต้องอดไป แม้แต่น้ำดื่มก็ไม่มี วันนี้พ่อแม่ครูอาจารย์งดการแสดงธรรม เวลาเกือบห้าทุ่มทุกคนได้เข้าเต๊นท์นั่งภาวนา เสียงหมาเริ่มหอนมากขึ้นเป็นระยะๆ ผมรู้แล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น การแผ่เมตตาก็เริ่มขึ้น เพราะเมื่อครั้งที่อยู่บ้านคุณสมบัติที่แม่สอดก็มีเหตุการณ์แบบเดียวกัน ซึ่งพ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้เฉลยให้พวกเราทราบกันมาแล้วว่า ท่านมาโปรดดวงวิญญาณที่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนในอดีตชาติ มีทุกเชื้อชาติ โดยเฉพาะชาวจีนนั้น นับว่ามีความผูกพันกับท่านมาก
ท่านทั้งหลาย สภาวะธรรมบางอย่าง สภาวะกิเลสของเราบางอย่าง หากอยู่ในสถานการณ์ที่เรียบสงบและสุขสบาย เราจะไม่รู้เลยว่า แท้ที่จริงกิเลสของเราเป็นเช่นไร การนั่งภาวนาสมาธิที่มีแต่ความเรียบสงบ มีแต่องค์ฌานเกิดขึ้น การที่มีแต่ความสุขอิ่มเอิบที่เกิดจากองค์ฌานนั้น แท้จริงมันดับกิเลสและเห็นกิเลสได้จริงหรือ... การกวนกิเลสให้มันฟูขึ้นนั้นต่างหาก จึงจะเห็นว่ากิเลสที่มันนอนแน่นิ่งอยู่ในก้นบึ้งของเรานั้น แท้จริงหน้าตามันเป็นเช่นไร สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนั้น จึงเป็นบทสอบที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผมเลยทีเดียว และได้เห็นสภาวะภูมิธรรมของแต่ละคนได้แจ่มแจ้งมากขึ้น ทุกคนยิ้มรับด้วยความสุข ซึ่งพ่อแม่ครูอาจารย์ได้เฉลยในวันสุดท้าย ด้วยคำกล่าวว่า "ขออนุโมทนากับทุกคนเด้อ"
ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
24 พฤศจิกายน 2554